Sunday, September 28, 2014

ภาพเมืองเชิงพื้นที่: สิ่งปลูกสร้าง

มองเมืองบนโลกยุคดิจิตอล ภาพเมืองเชิงพื้นที่
คนบ่นเมือง: มองเมืองบนโลกยุคดิจิตอล
102 ภาพเมืองเชิงพื้นที่: สิ่งปลูกสร้าง


เมื่อสำรวจ “ภาพเมือง” ในยุคข้อมูลข่าวสาร ยุคคอมพิวเตอร์ ยุคดิจิตอล หรือ ยุคสื่อใหม่ เห็นได้จัดเจน ว่าคนทั่วโลกเห็นภาพเมืองในลักษณะเชิงกายภาพเป็นอันดับแรก และด้วยจำนวนผู้เห็นอย่างนี้มีหนาแน่นอีกด้วย

พูดกันเข้าใจง่าย ๆ คือ คนเราส่วนมากเมื่อมองเมืองจะเห็นเมือง เป็นภาพตึกรามบ้านช่อง อย่างนี้ก่อน

 (เรื่องนี้บ่นต่อจากตอนที่แล้ว 101 สำรวจภาพเมืองบนโลกอินเตอร์เน็ท



ตึกรามบ้านช่องหรืออาคารสถานที่ นั้นคือสิ่งปลุกสร้าง ที่มนุษย์สร้างขึ้น
ว่ากันแบบให้มองเห็นแทน “ภาพเมือง” คือ สิ่งปลูกสร้างที่มีโครงสร้างประกอบด้วยหลังคาและผนังกำแพงที่ตั้งอยู่อย่างถาวร (หรืออาจไม่ค่อยถาวรสักเท่าใด) ในสถานที่หนึ่ง

แล้วภาพเมืองในรูปสิ่งปลูกสร้างดังว่าเหล่านั้นอาจมีรูปทรงหลากหลายแตกต่างกันไป รวมทั้งขนาดและหน้าที่การใช้สอยใช้ประโยชน์จากตัวสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ อันย่อมทำให้สิ่งปลูกสร้างแทนภาพเมืองนั้น ๆ เกี่ยวข้องกับวัสดุหรือวัตถุที่นำมาใช้ปลูกสร้างมันขึ้นมาให้ทรงไว้ และดำรงอยู่ได้ตามเงื่อนไขของสภาพภูมิอากาศ สภาพภูมิทัศน์ และการใช้ประโยชน์เฉพาะ รวมทั้งเหตุผลด้านคุณค่าทางศิลป์ของมนุษย์ที่สร้างสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นขึ้นไว้เป็นตัวแทนของภาพเมืองนั้นโดยรวม

เราจึงอาจพูดได้ว่า ภาพเมืองในรูปสิ่งปลูกสร้างดังว่ากันอยู่นี้ ก็คือสิ่งที่มนุษย์เมืองสร้างขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการทางสังคมของตนเองหรือกลุ่มสังคมหมู่เหล่าพวกตนเองนั้นเอง
ความต้องการพื้นฐานที่สุดของมนุษย์ที่อยู่รวมกลุ่มกันเป็นหมู่สัตว์หรือสัตว์สังคม (เช่น ครอบครัว กลุ่มครือญาติ หมู่บ้าน เมืองเล็ก เมืองใหญ่ไปจนถึงเมืองมหานคร) ก็คือ ให้มีสิ่งห่อหุ้มคุ้มกันภัยจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปแบบต่าง ๆ ให้มีสิ่งปลูกสร้างเพื่อประกันความมั่นคงของชีวิตและทรัพย์สิน ให้มีสิ่งปลูกสร้างเพื่อเกิดมีใช้พื้นที่สำหรับใช้ชีวิตอยู่อาศัย เพื่อให้เกิดการเป็นส่วนตัวส่วนบุคคลหรือกลุ่ม เพื่อเก็บรักษาสงวนไว้ซึ่งสิ่งที่ตนมีหรือครอบครอง และเพื่อความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตและการงาน

ถึงชั้นนี้อาจกล่าวสั้น ๆ ให้เป็นสูตรเข้าใจง่าย ๆ ได้ว่า ความรู้จำว่านี้คือเมืองผ่านภาพของสิ่งปลูกสร้างนั้น
ก็คือความเข้าใจว่า “เมืองคือสถานที่ หรือ พื้นที่อันสุขสบายและปลอดภัยสำหรับการเป็นอยู่ทำกิจกรรมของหมู่มนุษย์” นั้นเอง


เรื่อง “เมืองคือพื้นที่ของสังคมมนุษย์” ขี้เหม็นอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ นี้แหละ ที่ “คนบ่นเมือง” ตั้งใจว่าจะนำมาบ่นกันยาว ๆ ต่อไป








No comments: